
ขนมจีน เกือบทุกคนต้องเคยได้ทานมาแล้วไม่ว่าจะกับแกง น้ำยาต่างๆ และส้มตำ และขนมจีน ถึงแม้จะขึ้นด้วยคำว่าขนม แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ขนมหวานตามชื่อเรียก ขนมจีนนั้นเป็นอาหารไทยที่มีมาอย่างช้านานแล้ว มีการสันนิษฐานว่าคนไทยเรานั้นน่าจะรู้จักขนมจีนและน้ำยาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะว่าได้ค้นพบว่ามีคลองขนมจีนและคลองน้ำยา อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขนมจีนไม่ใช่อาหารของประเทศจีนอย่างที่ชื่อเรียกแต่ ขนมจีนเป็นอาหารของคนมอญค่ะ คำว่า “ขนมจีน” มาจากคำว่า “ขฺนํจินฺ” หรือ อ่านว่า คะ – นอม – จิน ในภาษามอญคำว่า คะนอม แปลว่า เส้น และคำว่าจีนนั้น แปลว่า สุกนั่นเองค่ะ
ขนมจีนมีถึง 2 ชนิดด้วยกันค่ะ
1. ขนมจีนแป้งหมัก ซึ่งจะเป็นเส้นขนมจีนที่เป็นที่นิยมนำมารับประทานอย่างมากที่ภาคอีสานของประเทศไทย ตัวเส้นจะมีสีออกน้ำตาลคล้ำๆ เส้นจะเหนียวนุ่มกว่าขนมจีนแป้งสดเสียอีกค่ะ และตัวขนมจีนแป้งหมักจะสามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เสียได้ง่าย และการทำเส้นขนมจีนแป้งหมักจะเป็นวิธีการทำเส้นแบบโบราณ คือจะต้องเลือกใช้ “ข้าวแข็ง” หรือที่เรียกกันว่า “ข้าวหนัก” เช่น ข้าวปิ่นแก้ว ข้าวเล็บมือนาง และข้าวพลวง ยิ่งถ้าข้าวที่มีความแข็งมากๆจะถือว่ายิ่งดี เพราะเวลานำมาทำขนมจีนจะทำให้เส้นเหนียวเป็นพิเศษและสิ่งที่สำคัญเลยก็คือน้ำค่ะ ถ้าใช้น้ำที่มาจากแหล่งน้ำที่ธรรมชาติไม่ใช่น้ำประปาไม่ใช่น้ำที่อันตราย จะทำให้เส้นดูเหนียวน่ากิน แต่ถ้าใช้น้ำจากน้ำประปา ก็จะทำให้เส้นขนมจีนเละ จับเส้นไม่ได้ และไม่น่ากินด้วยค่ะ
2. ขนมจีนแป้งสด จะใช้กรรมวิธีการผสมแป้งเอาค่ะ ตัวเส้นของขนมจีนเส้นสดจะมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าตัวขนมจีนแป้งหมักอีกค่ะ ขนมจีนแป้งสด ตัวเส้นจะมีสีขาว อุ้มน้ำได้มากกว่าขนมจีนแป้งหมัก ตัวเส้นจะนุ่ม และความเหนียวของตัวเส้นจะน้อยกว่าตัวเส้นขนมจีนแป้งหมัก และวิธีทำจะคล้ายๆกับการทำขนมจีนแป้งหมัก แต่จะทำได้ง่ายมากๆ เพราะไม่ต้องทำการแล่ข้าวทิ้งไว้หลายวัน ขนมจีนแป้งสดนั้นจะเก็บไว้ได้ไม่นาน จึงควรรีบนำมานึ่งกินค่ะ
และวันนี้นะคะเราจะนำวิธีการทำและส่วนผสมของเมนูแสนอร่อยที่มีชื่อว่าขนมจีนน้ำพริกกุ้ง betway88 มาแนะนำและแบ่งปันเพื่อนๆกันค่ะ ส่วนผสมของตัวเครื่องแกงน้ำพริกกุ้ง มีดังนี้ค่ะ
- พริกชี้ฟ้าแห้งหั่นท่อนทอดกรอบ 9 – 10 เม็ด
- หอมเล็กเจียว ¼ ถ้วย
- กระเทียมเจียว ¼ ถ้วย
- ข่าแก่หั่นหยาบคั่ว 1 ช้อนชา
- รากผักชีหั่นหยาบคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลังลวกสุด 400 กรัม
วิธีการทำพริกแกงง่ายๆเลยนะคะ นำส่วนผสมทุกอย่างมาโขลกเข้าด้วยกันจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันก็จะได้เครื่องแกงประมาณครึ่งถ้วยแล้วล่ะค่ะ ต่อมาก็คือส่วนผสมน้ำพริกกุ้ง(สำหรับ 5 – 6 ที่)มีดังนี้ค่ะ
- กะทิ 5 ถ้วย – เครื่องแกง ½ ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย – น้ำปลา 4 – 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ – น้ำมะกรูด 3 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด 3 – 4 ช้อนโต๊ะ – ถั่วเขียวซีกคั่วป่นละเอียด ¼ ถ้วย
- ลูกมะกรูดผ่าครึ่ง 1 – 2 ลูก – ขนมจีน 1 กิโลกรัม
- พริกขี้หนูแห้งทอดกรอบตามชอบ
เมื่อเราเตรียมส่วนผสมครบแล้วเรียบร้อยให้ตั้งหม้อไฟอ่อนไว้เพื่อเคี่ยวกะทิ คนกะทิอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้กะทิเป็นลูกจนปริมาณกะทิลดลง แล้วใส่เครื่องพริกแกงที่โขลกไว้ลงในกะทิ คนให้เข้ากัน ตั้งไฟจนส่วนผสมเดือดอีกครั้ง แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำมะกรูด จากนั้นใส่ถั่วลิสงและถั่วเขียวซีกลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยลูกมะกรูด ตั้งไฟพอให้ส่วนผสมเดือด หลังจากนั้นสักพักยกลงจากเตาพักไว้รอตักมารับประทานกับขนมจีนและผักต่างๆตามชอบค่ะ และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ในการกินกับขนมจีนน้ำพริกกุ้งก็คือ ผักต่างๆชุบแป้งทอดนั่นเองค่ะ
ส่วนผสมแป้งชุบผักทอดมีดังนี้ค่ะ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วย
- น้ำเย็นจัด ½ ถ้วย
- เกลือ ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบชะพลู ใบผักบุ้ง ตามชอบเลยค่ะ
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำผักชุบแป้งทอดนะคะ ให้ผสมแป้งสาลี น้ำเย็น เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำมันพืชเข้าด้วยกัน จากนั้นพักไว้ เตรียมล้างใบชะพลูและใบผักบุ้ง แล้วนำใบชะพลูและใบผักบุ้งชุบแป้งที่ผสมไว้แล้ว ตั้งกระทะใส่น้ำมันไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อนแล้วนำผักที่ชุบลงไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เพียงเท่านี้ก็ได้ผักชุบแป้งทอดไว้ทานกับตัวขนมจีนน้ำพริกกุ้งแล้วล่ะค่ะ